วันอังคารที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2551

งานครั้งที่ 2 ไฟล์วีดีโอนามสกุล DivX

DivX คือ file ที่ได้มาจากการ Encode ตามมาตราฐานการบีบอัดสัญญาณภาพ MPEG-4 (MPEG-4 compression format) ซึ่งคุณภาพของภาพ จะไม่แพ้ DVD มากนัก(ขึ้นอยู่กับการ Encoder) แต่ความจุน้อยกว่าเยอะเลยครับ หนังหนึ่งเรื่องสามารถเก็บได้ใน CD 700MB หนึ่งแผ่น (ขนาดของ File ขึ้นอยู่กับการ Encode ถ้าเรากำหนดขนาด File ใหญ่ก็จะได้ภาพที่ดีขึ้น ใส่ใน CD 2 ,3 แผ่นหรือมากกว่านั้น) ส่วน Format ของ DVD นั้นจะเป็น MPEG-2 และ VCD จะเป็น MPEG-1 ส่วนเพลง MP3 ที่เราฟังก่อนนั้นจะเป็น MPEG-1 Layer 3 โดยทั่วไปนั้นจะเรียกกันผิดว่า 'เอ็มเปค 3' เป็นเหตุผลหนึ่งที่เราจะไม่เห็นมาตราฐาน 'เอ็มเปค 3' เพราะข้ามไป MPEG-4 เลย กลับมาพูดถึง DivX กันต่อครับ Filetype ของ DivX ส่วนใหญ่จะเป็น .avi หรือ .divx ก่อนที่เราจะดูหนัง DivX ได้นั้น เราจะต้อง Dowload Codec เพื่อใช้ในการ Decode DivX file ที่ผมใช้อยู่จะมีอยู่ 2 ตัว คือ divx และ ffdshow ตัวนี้จะสามารถ decode XviD(XviD เป็น Format MPEG-4 เช่นกัน) เมื่อเราลง Codec เรียบร้อยแล้วเราจะสามารถดู DivX ได้โดยผ่านโปรแกรมที่สามารถดู .avi ได้เช่น Windows Media Player , PowerDVD ฯลฯ
http://www.thaisubtitle.com/forum/viewtopic.php?t=5

วันอังคารที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2551

การบ้านครั้งที่ 1 HD-DVD





HD-DVD (High Definition DVD) เป็นมาตรฐานของออปติคอลดิสก์ซึ่งพัฒนาโดยบริษัทโตชิบา ในรูปแบบของดีวีดีรุ่นใหม่ ซึ่งมีความคมชัดมากกว่า DVD ทั่วไปคะ ใช้บันทึกวิดีโอความละเอียดสูง (high definition) หรือข้อมูลชนิดอื่นๆ ก็ได้ ขนาดแผ่น HD-DVD จะเท่ากับแผ่น CD ธรรมดา และยิงด้วย blue laser แบบเดียวกับที่ใช้ใน Blu-ray Disc (เป็นแผ่นดีวีดีรุ่นใหม่อีกแบบหนึ่งที่พัฒนาโดยบริษัทโซนี่) HD-DVD มีความจุ 2 แบบ คือ แบบ single layer มีความจุ 15 GB และแบบ dual layer มีความจุ 30 GB ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่าง Blu-ray Disc ซึ่งจุได้ 25 GB สำหรับ single layer และ 50GB สำหรับ dual layer แล้ว HD-DVD อาจจะได้ความจุน้อยกว่า

HD DVD (High Definition DVD หรือ High Density DVD) เป็นแผ่นข้อมูลแบบบันทึกด้วยแสง (optical disc) ที่ใช้บันทึกวิดีโอความละเอียดสูง (high definition) หรือข้อมูลชนิดอื่นๆ ก็ได้ HD DVD มีลักษณะใกล้เคียงกับ Blu-ray ซึ่งเป็นแผ่นบันทึกข้อมูลคู่แข่ง โดยใช้ขนาดแผ่นเท่ากับซีดีรอม (เส้นผ่านศูนย์กลาง 12 ซม.)HD DVD ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมหลายบริษัท เช่น โตชิบา, NEC, ซันโย, ไมโครซอฟท์ และอินเทล รวมถึงบริษัทภาพยนตร์อย่าง Universal Studios โตชิบายังได้ออกวางขายเครื่องเล่นแผ่น HD DVD เครื่องแรกเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 2006HD DVD แบบเลเยอร์เดียวจุข้อมูลได้ 15GB และ 30GB สำหรับแบบสองเลเยอร์ โตชิบาได้ประกาศว่าจะผลิตแผ่นแบบ 3 เลเยอร์ที่จุได้ 45GB ในตัวแผ่น HD DVD สามารถใส่ข้อมูลชนิดดีวีดีแบบเดิม และ HD DVD ได้พร้อมกัน การอ่านข้อมูลใช้เลเซอร์ความยาวคลื่นแสงสีฟ้า (405 นาโนเมตร)ชั้นข้อมูลจะถูกบันทึกถัดไปจากพื้นผิว 0.6 มิลลิเมตรเช่นเดียวกับดีวีดีทั่วไป เทคโนโลยีการบีบอัดข้อมูลวิดีโอคือ MPEG-2, Video Codec 1 และ H.264/MPEG-4 AVC สนับสนุนระบบเสียงแบบ 7.1 ในส่วนความละเอียดของภาพนั้นขึ้นกับจอภาพที่ใช้ด้วย แต่สามารถขึ้นได้ที่ความละเอียดสูงสุด 1080p

จุดเด่นของ HD-DVD

สื่อรุ่นใหม่ทั้งสองประเภทไม่ได้มีดีที่ความจุเท่านั้น สิ่งที่หลายคนคาดหวังกับ Blu-ray และ HD-DVD ก็คือ คุณภาพของภาพที่คมชัดขึ้นกว่าเดิมและให้สีสันสมจริงที่สุดในแบบที่ดีวีดีเองก็ยังเทียบไม่ได้ แต่ก็ใช่ว่าแค่ซื้อแผ่นและเครื่องเล่นรุ่นใหม่แล้วคุณก็จะได้คุณภาพระดับดังกล่าว ถ้าจะเล่นแผ่นระดับนี้ คุณต้องมีโทรทัศน์แบบ High Definition หรือที่เรียกกันว่า HD-TV ด้วยความคมชัดของคุณภาพระดับ High-Definition นั้น เชื่อว่าใครได้ชมเป็นต้องติดใจเพราะแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับภาพที่เล่นจากแผ่นดีวีดีหรือแผ่นซีดธรรมดา แต่จะคุ้มค่ากันหรือไม่ อันนี้ผู้บริโภคต้องลองตัดสินใจกันดู โดยราคาเฉลี่ยของเครื่องเล่น Blu-ray นั้นอยู่ที่เกิน 3 หมื่นบาทขึ้นไป ส่วนเครื่องเล่น HD-DVD นั้นราคาก็ยังอยู่ประมาณ 2 หมื่นบาท นี่ยังไม่รวมค่าแผ่นภาพยนตร์ที่ตกแผ่นละประมาณเกือบๆพันบาท.... แน่นอนว่าสิ่งที่ทุกท่านจะได้กลับมาก็คือคุณภาพของภาพและระบบเสียงที่สมจริงขึ้นอุปสรรคของBlu-rayและHD-DVD แต่ความซับซ้อนและปัญหาเกี่ยวกับ Blu-ray และ HD-DVD นั้น ไม่ได้มีแค่เรื่องราคาที่ยังแพงอยู่ เพราะปัญหาสำคัญก็คือ ทั้งสองค่ายทะเลาะกันมาข้ามปี ยังหาจุดลงตัวไม่ได้ ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อสื่อรุ่นใหม่นี้ได้ลำบากขึ้น เพราะแผ่นแบบ Blu-ray นั้นก็ต้องเล่นเฉพาะบนเครื่องเล่นที่รองรับ Blu-ray เท่านั้น เช่นเดียวกันกับ HD-DVD สองปีผ่านไป ทั้งสองค่ายก็ยังหาทางสมานฉันท์ไม่ได้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวหลายครั้งว่าจะรอมชอมกันได้ และที่จริงเดิมทีซัมซุงและแอลจีก็เคยมีแผนที่จะปล่อยเครื่องเล่นแบบที่รองรับได้ทั้งสองมาตรฐาน แต่ท้ายสุดก็เป็นอันเงียบไป ทำให้ผู้บริโภคต้อง "เสี่ยง" ดวงเอาเอง คือ ถ้าสองค่ายไม่มีใครยอมใครกันจริงๆ แน่นอนว่าในอนาคตย่อมมีหนึ่งมาตรฐานที่ชนะ และอีกหนึ่งค่ายที่แพ้หากใครเลือกผิดก็เหมือนกับซื้อเครื่องเล่นเอาไว้เป็นของประดับบ้านเฉยๆนั่นละ!! สถานการณ์ตอนนี้หากดูกันโดยภาพรวมแล้ว Blu-ray ยังคงได้เปรียบอยู่พอสมควร เพราะค่ายหนังฮอลลีวูดยักษ์ใหญ่ 7 ใน 8 รายให้การสนับสนุนอย่างดี ซึ่งได้แก่ Warner, Paramount, Fox, Disney, Sony, MGM และ Lionsgate มีเพียงค่าย Universal เท่านั้นที่ยังปักใจกับ HD-DVD โดยมี Warner และ Paramount เป็นที่ปันใจเลือกทั้งสองฝั่งเป็นแรงหนุนอีกที นอกจากนี้ Blu-ray ยังมีค่ายผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำคอยดันกันอีกหลายแรง ทั้ง Panasonic, Philips, Samsung, Pioneer, Sharp, JVC, Hitachi, Mitsubishi, LG รวมไปถึงค่ายใหญ่ในวงการคอมพิวเตอร์ทั้ง Apple, HP และ Dell เรียกว่าทำให้ฟากHD-DVDของโตชิบานั้นสั่นได้ไม่น้อยทีเดียว แต่ใช่ว่า HD-DVD นั้นจะต้องเป็นฝ่ายแพ้นะ ลองฟังชื่อของบริษัทระดับบิ๊กๆ ที่หนุนหลังโตชิบาซะก่อนแล้วค่อยตัดสินใจใหม่ เพราะมีทั้ง NEC, Sanyo พร้อมด้วยคู่หูดูโอวงการคอมพิวเตอร์อย่าง Microsoft และ Intel เรียกว่าทาง Blu-ray เองก็ประมาทไม่ได้เลยทีเดียวสำหรับใครที่อยากลองของใหม่ ทั้ง Blu-ray และ HD-DVD น่าจะสร้างความตื่นเต้นประทับใจให้ได้ไม่น้อยทีเดียว แต่ถ้าใครชอบความคุ้มค่า Choose IT ของเราขอแนะนำว่า ... รอไปก่อน รอจนกว่าเค้าจะทะเลาะกันเสร็จ รอจนกว่าราคาจะเหมาะสมกว่านี้ แล้วค่อยซื้อก็ยังไม่ช้าเกินไป
ที่มา: http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=0a84d09cead9ad11
http://hitechguide.blogspot.com/2007/12/hd-dvd.html
http://www.chaime.net/forum/showthread.php?tid=14&pid=836#pid836

ประวัติส่วนตัว



ชื่อ นางสาวโสภิตา สมบูรณ์

ชื่อเล่น "แตง "

รหัสนักศึกษา 435065050081-7

อายุ 22 ปี

วันเกิด 6 พฤษภาคม 2529

ที่อยู่ 287/2 ม.5 ต.ทุ่งโพธิ์ อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช 80130

คติ ทำทุกทุกวันให้ดีที่สุด

จบการศึกษา วิทยลัยเทคนิคตรัง

ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย สงขลา